คนแก่ในฝรั่งเศส
ทำไมฝรั่งจึงทิ้งให้พ่อแม่อยู่ตามลำพัง? ไม่กลับมาดูแลท่านยามแก่เฒ่า
เราเคยสังเกตบ้างไหมว่าฝรั่งแก่ๆที่มาเที่ยวเมืองไทยนั้น ส่วนใหญ่จะมาเป็นคู่แค่สามีภรรยา ไม่ได้มาเป็นครอบครัวเหมือนอย่างคนไทย ที่มักจะไปไหนกันพร้อมหน้าพร้อมตา
ชีวิตคนแก่ในฝรั่งเศสต้องอยู่กันเองตามลำพัง หากสามีหรือภรรยาเสียชีวิตไปก่อน อีกฝ่ายก็ต้องมีชีวิตอยู่คนเดียวให้ได้ เราอาจสงสัยว่าทำไมลูกหลานจึงไม่ดูแลบุพการีของตน? หรือเราอาจตำหนิเด็กวัยรุ่นฝรั่งว่าไม่มีความกตัญญู ทิ้งพ่อแม่ได้ลงคอ
คำตอบต่อไปนี้อาจสร้างความสะเทือนใจให้แก่ผู้อ่านไม่มากก็น้อย เพราะสภาพสังคมของเขาช่างแตกต่างจากเราโดยสิ้นเชิง ท่านจะได้รับรู้ความคิดและวิถีชีวิตที่แท้จริงของชาวฝรั่งเศส เพื่อเราจะได้เข้าใจเขามากขึ้น
ชีวิตของคนฝรั่งเศส เรียกได้ว่า circle of life หมายถึง วัฏจักรชีวิต ที่เมื่อเริ่มต้นอย่างไร บั้นปลายก็ย้อนกลับมาสู่ที่เดิม
ทันทีที่ผู้หญิงรู้ตัวว่าตั้งท้อง สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ ไปลงชื่อจองเนิร์สเซอรี่ให้เด็กที่กำลังจะเกิดมา เพราะเนิร์สเซอรี่ในแต่ละเขตเมืองรับเด็กได้จำนวนจำกัด หากไม่จองล่วงหน้าเป็นปี เด็กแรกเกิดก็จะไม่มีที่อยู่
เมื่อแม่คลอดลูกที่คลินิคหรือโรงพยาบาลแล้ว พอได้กลับบ้าน พ่อกับแม่จะไม่มีทางให้ลูกนอนบนเตียงเดียวกับตัวเองเหมือนอย่างที่คนไทยทำ ไม่มีการนอนกอดกันสามคนพ่อแม่ลูกบนเตียง เด็กฝรั่งเศสแรกคลอดต้องมีห้องนอนของตัวเอง ต้องนอนในเตียงเด็กหรือในเปลคนเดียว ต้องแยกห้อง เพราะพ่อแม่มีความคิดว่า " เราต้องตัดสายสะดือลูกให้ขาด " หมายความว่า ต้องฝึกให้เด็กมีชีวิตเป็นของตัวเองตั้งแต่ต้น
ตามกฎหมาย แม่มีสิทธิลาคลอดได้ 8 สัปดาห์หลังคลอด เท่ากับว่าแม่จะมีเวลาเลี้ยงลูกเต็มที่แค่ 2 เดือน หลังจากนั้นแม่ต้องกลับไปทำงาน คนฝรั่งเศสทุกคนอยู่กันเป็นครอบครัวเดี่ยว ไม่มีการอยู่รวมกับพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย หรือลุงป้าน้าอาอย่างคนไทย ดังนั้น จึงไม่สามารถฝากเด็กให้ผู้ใหญ่ที่บ้านเลี้ยงได้ ตอนเช้าแม่จะเอาลูกไปฝากไว้ที่เนิร์สเซอรี่เวลา 8 โมงเช้าก่อนไปทำงาน และรับลูกกลับบ้านเวลา 18.30 หลังเลิกงานตอนเย็น
เราจะเห็นว่า แต่ละวัน พ่อแม่มีเวลาอยู่กับลูกน้อยมาก กว่าจะกลับถึงบ้าน เด็กก็ใกล้หลับแล้ว เด็กทารกฝรั่งเศสมีชีวิตอยู่กับคนอื่น คือพี่เลี้ยงที่เนิร์สเซอรี่ เยอะกว่าได้อยู่กับพ่อแม่
พอโตขึ้น เด็กต้องไปโรงเรียน ตอนเช้าพ่อแม่ไปส่งได้ แต่ตอนบ่าย เด็กเลิกเรียนเร็วกว่าเวลาเลิกงานของพ่อแม่ ดังนั้นพ่อแม่จึงต้องจ้างพี่เลี้ยงพาร์ทไทม์ เพื่อไปรอรับลูกหน้าโรงเรียน พาจูงกลับมาบ้าน ให้พี่เลี้ยงอยู่เล่นเป็นเพื่อนลูก จนกว่าพ่อแม่จะมาถึงบ้านตอนค่ำ พี่เลี้ยงจึงจะกลับได้
พอเริ่มขึ้นชั้น ม.1 จะไม่มีการให้พ่อแม่เดินจูงไปส่งตอนเช้า หรือไปรอรับหน้าโรงเรียนตอนเย็นอีกแล้ว ใครที่ยังทำแบบนี้จะถูกเพื่อนล้อ เด็กฝรั่งเศสชอบที่จะเดินกลับบ้านเอง
หลังจากจบ ม.6 แล้ว เมื่อต้องเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย ลูกต้องตัดสินใจว่าจะเรียนต่อที่เมืองเดิมหรือย้ายเมือง หากไปเรียนที่เมืองอื่น ลูกก็ต้องไปเช่าอพาร์ทเม้นอยู่เองตามลำพัง หรือหากเรียนต่อในเมืองเดิมและมีแฟน ลูกก็มีสิทธิตัดสินใจได้ว่าจะออกจากบ้าน เพื่อไปเช่าห้องอยู่กับแฟน หรือจะอยู่บ้านเดิมของพ่อแม่ แต่ว่าไม่ได้อยู่ถาวร เช่น สัปดาห์นี้พาแฟนมาอยู่ด้วย สัปดาห์หน้าก็ไปอยู่บ้านแฟน สลับกันไปแบบนี้
เมื่อเรียนจบ มีงานทำ ลูกทุกคน " ต้อง " ย้ายออกจากบ้านพ่อแม่ เพื่อไปซื้อบ้านหรือเช่าอพาร์ทเม้นอยู่ต่างหาก ใครที่เรียนจบแล้ว มีงานทำ แล้วยังอยู่ภายใต้หลังคาเดียวกับพ่อแม่ ถือเป็น " เรื่องที่น่าอาย " " ดูประหลาด " และ " ไม่เป็นที่ยอมรับ " ในสังคมฝรั่งเศส
เมื่อความคิดของคนเป็นเช่นนี้ ลูกจึงอยากออกไปให้พ้นบ้านเร็วๆ ไปมีชีวิตที่อิสระของตัวเอง กลับมาเยี่ยมพ่อแม่เป็นครั้งคราว คือ ช่วงคริสมาสต์ปีละ 1 ครั้งก็เพียงพอ หากลูกบ้านไหนมีน้ำใจ ก็มาเยี่ยมพ่อแม่บ่อย แต่โดยทั่วไป ลูกไม่ได้มีความรู้สึกผูกพันกับพ่อแม่ หรือมีข้อผูกมัดในใจว่าจะต้องอยู่ดูแลพ่อแม่ไปตลอดชีวิตเหมือนอย่างคนไทย มิเช่นนั้นจะถือว่า อกตัญญู
ทางฝั่งพ่อแม่เองก็ดีใจและโล่งอก ที่เมื่อลูกโตแล้วก็ออกไปรับผิดชอบตนเองเสียที พ่อแม่จะไม่สบายใจเลยถ้าลูกยังไม่ยอมย้ายออกจากบ้าน พ่อแม่จะมองว่า ลูกผิดปกติ หรือมีปัญหาในชีวิต ทำให้พ่อแม่เป็นกังวลมาก และพยายามช่วยทุกวิถีทางที่จะผลักลูกออกไปให้พ้นอก
พ่อแม่ฝรั่งเศสไม่มีการปลูกฝังให้ลูกรู้จักคำว่า " กตัญญู " หรือ " ทดแทนบุญคุณ " เขามีหน้าที่ " ให้ " ทุกสิ่งทุกอย่างแก่ลูกตามที่พ่อแม่คนหนึ่งจะให้ได้ เขาไม่เคยคาดหวังว่าลูกจะต้องมาตอบแทนบุญคุณ เมื่อลูกโตขึ้นและทำสิ่งต่างๆให้พ่อแม่ชื่นใจ นั่นถือเป็น " กำไร "
ดังนั้น เมื่อพ่อแม่ไม่คาดหวังว่า ลูกจะต้องมาดูแลตนตอนแก่ พ่อกับแม่จึงรู้สึกเฉยๆที่อยู่กันเพียงลำพัง 2 คน เราอาจสงสารเขาที่ต้องช่วยเหลือตัวเองทุกอย่างแม้จะแก่มากแล้ว แต่ตัวเขาเองไม่ได้รู้สึกว่า ตัวเองลำบาก
ส่วนลูกก็ไม่ได้รู้สึกผิดที่ทิ้งพ่อแม่ เพราะเขาคิดว่าเมื่อตอนเด็กๆ พ่อแม่ยังทิ้งเขาไว้ที่เนิร์สเซอรี่เลย ยังไม่ได้ดูแลฟูมฟักเท่าที่ควร ไม่เคยนอนกอดให้ไออุ่น ดังนั้น เมื่อพ่อแม่แก่ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องกลับไปเลี้ยงดู
คนแก่ฝรั่งเศสจำนวนไม่น้อยที่เต็มใจเลือกไปอยู่บ้านพักคนชรา เพราะที่นั่นมีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอาหาร 3 มื้อ, แพทย์ฉุกเฉิน, พยาบาลดูแล 24 ชั่วโมง, แม่บ้านทำความสะอาด ฯลฯ และพวกเขาก็จะมีสังคมเป็นเพื่อนคนชราเหมือนกัน ที่ไม่เคยมีลูกหลานมาเยี่ยม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น