อาหารการกินในงานเลี้ยงที่บ้าน
อย่างที่เคยกล่าวไปแล้วว่าคนฝรั่งเศสกินข้าวดึก และใช้เวลาบนโต๊ะอาหารหรือกับมื้ออาหารนานมาก เพราะเขาไม่ได้กินรวดเดียวจบอย่างคนไทย เขาต้องมีขั้นตอนการกินอาหารหลายจาน ตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการบางครั้งใช้เวลานานถึง 5-6 ชั่วโมง
ประมาณ 1 ทุ่มเป็นต้นไป หรือบางบ้านก็เริ่ม 2 ทุ่ม เมื่อแขกเหรื่อทยอยกันมาถึงแล้ว เจ้าบ้านจะบริการ l'appéritif ( ลัปเปคริตีฟ ) แปลว่า อาหารเรียกน้ำย่อย เพื่อให้กินฆ่าเวลาไปก่อน ตามปกติแล้ว เครื่องดื่มที่เสิร์ฟมักเป็นเบียร์ แชมเปญ โค้ก หรือน้ำส้ม ส่วนอาหารนั้นเป็นพวกมันฝรั่งทอด ข้าวเกรียบ แตงกวาสดหั่นเป็นชิ้นยาวๆ มะเขือเทศจิ๋ว ขนมปังทาทูน่า และแคร๊กเกอร์รสเค็ม ( ภาพที่ 1 )
ประมาณ 3 ทุ่ม เจ้าบ้านจะคอยสังเกตว่าหากอาหารเริ่มหมดจานแล้ว ก็แปลว่าสามารถเสิร์ฟอาหารจานหลักต่อไปได้ ในงานเลี้ยงแบบบุฟเฟ่ต์ อาหารจานหลักจะไม่ใช่อาหารที่ต้องปรุงสุก แต่มักเป็นพวกอาหารแช่เย็นที่ตักรับประทานได้ง่าย เช่น สลัดพาสต้าใส่ปูอัดและมะเขือเทศ สลัดข้าวใส่ข้าวโพดและทูน่า ตับห่านบด ตับหมูบด แฮมนานาชนิด และที่ขาดไม่ได้ คือ ไส้กรอกแห้งหั่นเป็นแว่นๆ ส่วนเครื่องดื่มคือ ไวน์แดง ( ภาพที่ 2 )
ประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง เมื่อแขกเริ่มอิ่มกับอาหารคาวแล้ว เจ้าบ้านจะทยอยเคลียร์โต๊ะ เพื่อวางเนยแข็งให้กินคู่กับขนมปังหลังอาหาร
หลังจากนั้นประมาณ 5 ทุ่มครึ่ง ก็ถึงคราวของหวาน ไม่ว่าจะเป็นงานวันเกิดหรืองานเลี้ยงทั่วไป คนฝรั่งเศสไม่นิยมซื้อเค้กตามร้านมาเป่า เขาชอบทำเค้กโฮมเมดเอง นี่คือเสน่ห์ของการกินเลี้ยงที่บ้าน เพราะเจ้าบ้านมีความสุขที่จะได้โชว์ฝีมือการทำอาหารอวดแขก เขาไม่ได้มีความคิดว่า ต้องซื้อเค้กก้อนใหญ่ๆหรือแพงๆจากร้านเบเกอรี่ แต่เขาคิดว่า ควรทำเค้กที่มีความหมาย เพื่อคนกินจะได้ประทับใจกับเค้กฝีมือเจ้าบ้านมากกว่า
เนื่องจากงานเลี้ยงนี้ เป็นงานวันเกิดที่ชายหนุ่มคนหนึ่งจัดขึ้นเพื่อเซอร์ไพรส์แฟนสาว และเขามักจะเรียกแฟนเล่นๆว่า " กีวี่ " เขาจึงทำเต้าฮวยรูปหัวใจรสถั่วพิสทาชิโอ แล้วหั่นกีวี่วางประดับรอบๆ สร้างความประทับใจให้แก่แฟนสาวและแขกที่มาร่วมงาน
ภายในงานเลี้ยง คนฝรั่งเศสไม่ได้ดื่มเหล้าผสมโซดาใส่น้ำแข็ง เขาดื่มแค่เบียร์ในช่วงอาหารเรียกน้ำย่อย นอกนั้นแล้วเขาดื่มไวน์ตลอดงาน
งานเลี้ยงที่บ้านส่วนใหญ่เลิกอย่างเร็วประมาณ ตี 1 หรืออย่างช้าก็ ตี 2
แต่หากเป็นงานแต่งงานนั้น เลิกดึกยิ่งกว่านี้ คือ เลิก ตี 3 แขกเหรื่อจึงจะทยอยกลับได้
ประมาณ 1 ทุ่มเป็นต้นไป หรือบางบ้านก็เริ่ม 2 ทุ่ม เมื่อแขกเหรื่อทยอยกันมาถึงแล้ว เจ้าบ้านจะบริการ l'appéritif ( ลัปเปคริตีฟ ) แปลว่า อาหารเรียกน้ำย่อย เพื่อให้กินฆ่าเวลาไปก่อน ตามปกติแล้ว เครื่องดื่มที่เสิร์ฟมักเป็นเบียร์ แชมเปญ โค้ก หรือน้ำส้ม ส่วนอาหารนั้นเป็นพวกมันฝรั่งทอด ข้าวเกรียบ แตงกวาสดหั่นเป็นชิ้นยาวๆ มะเขือเทศจิ๋ว ขนมปังทาทูน่า และแคร๊กเกอร์รสเค็ม ( ภาพที่ 1 )
ประมาณ 3 ทุ่ม เจ้าบ้านจะคอยสังเกตว่าหากอาหารเริ่มหมดจานแล้ว ก็แปลว่าสามารถเสิร์ฟอาหารจานหลักต่อไปได้ ในงานเลี้ยงแบบบุฟเฟ่ต์ อาหารจานหลักจะไม่ใช่อาหารที่ต้องปรุงสุก แต่มักเป็นพวกอาหารแช่เย็นที่ตักรับประทานได้ง่าย เช่น สลัดพาสต้าใส่ปูอัดและมะเขือเทศ สลัดข้าวใส่ข้าวโพดและทูน่า ตับห่านบด ตับหมูบด แฮมนานาชนิด และที่ขาดไม่ได้ คือ ไส้กรอกแห้งหั่นเป็นแว่นๆ ส่วนเครื่องดื่มคือ ไวน์แดง ( ภาพที่ 2 )
ประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง เมื่อแขกเริ่มอิ่มกับอาหารคาวแล้ว เจ้าบ้านจะทยอยเคลียร์โต๊ะ เพื่อวางเนยแข็งให้กินคู่กับขนมปังหลังอาหาร
หลังจากนั้นประมาณ 5 ทุ่มครึ่ง ก็ถึงคราวของหวาน ไม่ว่าจะเป็นงานวันเกิดหรืองานเลี้ยงทั่วไป คนฝรั่งเศสไม่นิยมซื้อเค้กตามร้านมาเป่า เขาชอบทำเค้กโฮมเมดเอง นี่คือเสน่ห์ของการกินเลี้ยงที่บ้าน เพราะเจ้าบ้านมีความสุขที่จะได้โชว์ฝีมือการทำอาหารอวดแขก เขาไม่ได้มีความคิดว่า ต้องซื้อเค้กก้อนใหญ่ๆหรือแพงๆจากร้านเบเกอรี่ แต่เขาคิดว่า ควรทำเค้กที่มีความหมาย เพื่อคนกินจะได้ประทับใจกับเค้กฝีมือเจ้าบ้านมากกว่า
เนื่องจากงานเลี้ยงนี้ เป็นงานวันเกิดที่ชายหนุ่มคนหนึ่งจัดขึ้นเพื่อเซอร์ไพรส์แฟนสาว และเขามักจะเรียกแฟนเล่นๆว่า " กีวี่ " เขาจึงทำเต้าฮวยรูปหัวใจรสถั่วพิสทาชิโอ แล้วหั่นกีวี่วางประดับรอบๆ สร้างความประทับใจให้แก่แฟนสาวและแขกที่มาร่วมงาน
ภายในงานเลี้ยง คนฝรั่งเศสไม่ได้ดื่มเหล้าผสมโซดาใส่น้ำแข็ง เขาดื่มแค่เบียร์ในช่วงอาหารเรียกน้ำย่อย นอกนั้นแล้วเขาดื่มไวน์ตลอดงาน
งานเลี้ยงที่บ้านส่วนใหญ่เลิกอย่างเร็วประมาณ ตี 1 หรืออย่างช้าก็ ตี 2
แต่หากเป็นงานแต่งงานนั้น เลิกดึกยิ่งกว่านี้ คือ เลิก ตี 3 แขกเหรื่อจึงจะทยอยกลับได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น